รู้จักสมาคม
สมาคมพันธกิจสัมพันธ์มหาวิทยาลัยกับสังคม
Association for University Social Engagement Thailand (EnT)
ศ.ดร. วิจิตร ศรีสอ้าน
นายกสมาคมพันธกิจสัมพันธ์มหาวิทยาลัยกับสังคม
“ผมอาจจะเป็นคนหนึ่งในจำพวกนั้นที่ชอบทำอะไรใหม่ ๆ ไม่ชอบทำอะไรซ้ำซาก ไม่ชอบทำอะไรที่อยู่ในเป้าหมายเดิมตลอดเวลา แต่ไม่ถึงขั้นสุดโต่ง เมื่อเราคิดถึงว่าเราพบปัญหา ถ้าไม่ใช้วิธีการไหม่ ๆ แก้ จะแก้ไม่ได้เลย ทำให้ต้องคิดต่อ และวิธีใหม่ ๆ ที่จะมาช่วยแก้ปัญหา ที่จะช่วยให้เราทำอะไรได้ ควรจะเป็นอะไร…”
เราต้องแยกระหว่าง Inventor กับ innovator กล่าวคือ inventor คือสร้างอะไรใหม่ ๆ เป็นคนแรก แต่ innovator อาจเอาของที่มีอยู่แล้วเกิดขึ้นแล้วมาปรุงแต่งให้ใช้การได้ในสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่งในบริบทใดบริบทหนึ่ง ผมจึงมองตัวผมเองว่าเป็น innovator มากกว่า inventor
กรรมการบริหาร
สมาคมพันธกิจสัมพันธ์มหาวิทยาลัยกับสังคม
Association for University Social Engagement Thailand (EnT)
![](https://www.engagementthailand.org/wp-content/uploads/2023/09/a003.png)
ศ.นพ.ดร. นรินทร์ หิรัญสุทธิกุล
อุปนายก
![](https://www.engagementthailand.org/wp-content/uploads/2023/09/a005.png)
รศ.ดร. อาวรณ์ โอภาสพัฒนกิจ
อุปนายก
![](https://www.engagementthailand.org/wp-content/uploads/2023/09/a010.png)
รศ.ดร. สมชาย สันติวัฒนกุล
กรรมการที่ปรึกษา
![](https://www.engagementthailand.org/wp-content/uploads/2023/09/a011.png)
รศ.ดร. มานิตย์ จุมปา
กรรมการที่ปรึกษา
![](https://www.engagementthailand.org/wp-content/uploads/2023/09/a012.png)
ดร. มัลลิกา สังข์สนิท
กรรมการที่ปรึกษา
![](https://www.engagementthailand.org/wp-content/uploads/2023/09/a013.png)
ศ.ดร. อนงค์ฤทธิ์ แข็งแรง
กรรมการที่ปรึกษา
![](https://www.engagementthailand.org/wp-content/uploads/2023/09/a008.png)
รศ.ดร. ชลวิทย์ เจียรจิตต์
เลขาธิการ
![](https://www.engagementthailand.org/wp-content/uploads/2023/09/me01-640-960.png)
คณะกรรมการ
การแต่งตั้งคณะกรรมการสมาคมพันธิกจสัมพันธ์มหาวิทยาลัยกับสังคม
จำนวน 21 ท่าน ณ วันที่ 8 พฤศจิกายน 2564
สมาคมพันธกิจสัมพันธ์มหาวิทยาลัยกับสังคม หรือ สพมส.
Association for University Social Engagement Thailand (EnT)
วิสัยทัศน์
“มหาวิทยาลัยเป็นพันธมิตร (partner) ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (stakeholders) อย่างแท้จริงของชุมชนและสังคม”
วัตถุประสงค์
เพื่อเป็นศูนย์กลางประสานความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยกับหน่วยงานต่างๆ ในสังคมและนานาชาติ เพื่อร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ร่วมได้รับประโยชน์ และเกิดผลกระทบที่ดีต่อสังคม ตลอดจนส่งเสริมให้เกิดระบบการบริหารจัดการที่เข้มแข็งในมหาวิทยาลัย ในการขับเคลื่อนพันธกิจสัมพันธ์มหาวิทยาลัยกับสังคมและเกิดการบูรณาการของทุกพันธกิจหลักของมหาวิทยาลัยในการทำงานเพื่อสังคม เพื่อส่งเสริมการพัฒนากำลังคนในมหาวิทยาลัยและหน่วยงานภายนอกที่มีอุดมการ ความรู้ และทักษะในการทำงานวิชาการเพื่อสังคมอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
เป้าหมาย
- เพื่อให้เกิดระบบการบริหารจัดการที่เข้มแข็งในมหาวิทยาลัย ในการขับเคลื่อนพันธกิจมหาวิทยาลัยเพื่อสังคม และเกิดการบูรณาการของทุกพันธกิจหลักของมหาวิทยาลัยในการทำงานเพื่อสังคม
- เพื่อให้มีการพัฒนากำลังคนในมหาวิทยาลัยที่มีอุดมการณ์ ความรู้ และทักษะในการทำงานวิชาการเพื่อสังคม อย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
- เพื่อให้เกิดการยกระดับงานวิชาการจากผลงานเพื่อสังคม และเกิดการพัฒนาระบบการรับรองคุณภาพงานวิชาการเพื่อสังคม เพื่อความก้าวหน้าในวิชาชีพของบุคลากร
- เพื่อสร้างชื่อเสียงและการยอมรับของมหาวิทยาลัยไทยในด้านพันธกิจต่อสังคม ในวงการอุดมศึกษานานาชาติ
เครื่องหมายสมาคม
รูปเกลียวสัมพันธ์ ประกอบด้วยสีน้ำเงิน สีฟ้า และสีเทา
ปี 2562
สมาคมพันธกิจสัมพันธ์มหาวิทยาลัยกับสังคม หรือ EnT ได้เปลี่ยนสถานภาพทางกฎหมายจากเครือข่ายการดำเนินงานแบบนำร่อง มาเป็น สมาคมพันธกิจสัมพันธ์มหาวิทยาลัยกับสังคม ซึ่งมีฐานะเป็นนิติบุคคลตามความต้องการของสมาชิก ทั้งนี้สมาคมฯ จะดำเนินการเพื่อเป็นหน่วยประสานงานและเชื่อมประสาน (facilitator / coordinator) ระหว่างมหาวิทยาลัย ชุมชน และรัฐบาล ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมมหาวิทยาลัย / ภาคีอื่นๆ ของประเทศไทยให้สามารถทำงานด้านมหาวิทยาลัยเพื่อสังคม ได้ดี มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ประเทศไทย 4.0
สมาคม EnT หรือ เครือข่าย Engagement Thailand เดิม ได้ดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนสมาชิกมาอย่างต่อเนื่อง เช่น การกำหนดนิยาม / หลักการของการทำงานมหาวิทยาลัยเพื่อสังคม การรวบรวมกรณีศึกษาเพื่อเป็นตัวอย่างของการทำงานมหาวิทยาลัยเพื่อสังคม การส่งเสริมนักวิชาการในการเข้าสู่ตำแหน่งทางวิชาการด้านมหาวิทยาลัยรับใช้สังคม ตลอดจน การสร้างเวทีเพื่อการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในการทำงานเพื่อสังคมผ่านการจัดประชุมทางวิชาการประจำปีทุกปี เป็นต้น
แนวคิดของพันธกิจมหาวิทยาลัยเพื่อสังคม (University Engagement) เป็นจุดเปลี่ยน (transition) ของการทำงานกับสังคมของมหาวิทยาลัย ซึ่งเดิมดำเนินการอยู่ในรูปแบบของงานบริการวิชาการ (service) และงานอาสาสมัคร (volunteering) เป็นหลัก ไปสู่การทำงานร่วม (engagement) กับภาคีในพื้นที่ในลักษณะเชิงสถาบัน ที่เป็นหุ้นส่วนระยะยาว (long-term partnership) และหวังที่จะให้มหาวิทยาลัยเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (stakeholders) อย่างแท้จริงของชุมชนหรือสังคมในพื้นที่ พันธกิจนี้จะเป็นการเชื่อมโยงระหว่างภารกิจหลักทุกภารกิจของมหาวิทยาลัย อาทิ การผลิตบัณฑิต การวิจัย การบริการวิชาการ และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม เข้าด้วยกันอย่างมียุทธศาสตร์และเป็นระบบ และส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือของทุกภาคส่วนทั้งในระหว่างมหาวิทยาลัยด้วยกันเอง และระหว่างมหาวิทยาลัยกับหน่วยงานภายนอกมหาวิทยาลัย
จากความสำคัญของพันธกิจมหาวิทยาลัยเพื่อสังคมดังกล่าว หลายหน่วยงานจึงร่วมกันจัดตั้งสมาคมพันธกิจสัมพันธ์มหาวิทยาลัยกับสังคม ขึ้น เพื่อเป็นพื้นที่กลางในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การทำงานวิชาการเพื่อสังคม การพัฒนาระบบบริหารจัดการ ตลอดจนเป็นจุดประสานความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยที่สนใจพันธกิจเพื่อสังคม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
การทำงานเชิงวิชาการร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยกับสังคมในพันธกิจหลักทุกด้านของมหาวิทยาลัย บนหลักการพื้นฐาน 4 ประการ ได้แก่
- ร่วมคิดร่วมทำแบบพันธมิตรและหุ้นส่วน (partnership)
- เกิดประโยชน์ร่วมกันแก่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย (mutual benefits)
- เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน และเกิดผลงานวิชาการ (knowledge sharing and scholarship)
- เกิดผลกระทบต่อสังคมที่ประเมินได้ (measurable social impact)
- มหาวิทยาลัยรับรู้และยอมรับคุณค่า (values) วัฒนธรรม (culture) ความรู้และทักษะ (knowledge and skills) ของสังคม และทำงานที่เกิดประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่ายร่วมกัน
- มหาวิทยาลัยต้องกำหนดเรื่องพันธกิจสัมพันธ์มหาวิทยาลัยกับสังคมไว้ในระบบกำกับดูแล นโยบายและแผนการดำเนินการ งบประมาณ หลักสูตร รวมถึงวิถีชีวิตในมหาวิทยาลัย
- ในการทำวิจัยร่วมกันนั้น ต้องร่วมกันพัฒนาโจทย์และวิธีการที่ครอบคลุมทั้งในเชิงวิชาการและประเด็นของสังคม
- ในการบูรณาการกับการเรียนการสอนนั้น ต้องเชื่อมโยงกับเป้าหมายในการเรียนรู้ของนักศึกษา และต้องสอดคล้องกับความต้องการของสังคม
- มหาวิทยาลัยและสังคมทำงานร่วมกันในการติดตามความร่วมมือ วัดผลกระทบ ประเมินผลลัพธ์ และปรับปรุง / พัฒนากิจกรรมที่ทำร่วมกัน
- เป้าหมายสำคัญคือ การเปลี่ยนแปลงสังคมไปในทางที่ดีขึ้น และสร้าง engaged citizens ซึ่งรวมถึงนักศึกษา บัณฑิต และบุคลากรของมหาวิทยาลัย
ทั้งนี้ สังคม หมายรวมถึง กลุ่มบุคคลที่อาจเชื่อมโยงกับชุมชนทั้งในมิติของพื้นที่ ความสนใจร่วมกัน อัตลักษณ์ สถานที่ทำงาน ชุมชนที่อยู่ใกล้เคียงกันทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ หรืออยู่ในภาคส่วนเดียวกัน ชุมชนนักปฏิบัติ ชุมชนที่มีความสนใจร่วมกัน โดยไม่มีข้อจำกัดทั้งในเชิงพื้นที่ ภูมิภาค และประเทศ รวมถึงภาคธุรกิจอุตสาหกรรม สมาคมวิชาชีพ โรงเรียน รัฐบาล ศิษย์เก่า และชุมชนพื้นเมือง เป็นต้น
- เกิดประโยชน์ทั้งแก่มหาวิทยาลัยและสังคม ทั้งในด้านการพัฒนาการเรียนการสอน การวิจัย การถ่ายทอดเทคโนโลยี การพัฒนาคุณภาพบัณฑิต การพัฒนากำลังคน การสร้างความเข้มแข็งแก่ชุมชน และการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
- เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างนักวิชาการและนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และการทำงานร่วมกับชุมชน / สังคม เพื่อร่วมสร้างผลกระทบในเชิงบวกให้เกิดแก่สังคมอย่างเป็นระบบและมียุทธศาสตร์
- เกิดระบบการบริหารจัดการแบบใหม่ในมหาวิทยาลัยที่มีการบูรณาการทรัพยากรทุกประเภทมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม
- เกิดความเข้มแข็งและก้าวหน้าทางอาชีพแก่บุคลากรทุกประเภทของมหาวิทยาลัย เช่น ในการเข้าสู่ตำแหน่งทางวิชาการหรือชำนาญการ
- ได้รวมพลังกับมหาวิทยาลัย ชุมชนและภาคีอื่นๆ ในการส่งเสริมให้เกิดความก้าวหน้าในพันธกิจมหาวิทยาลัยกับสังคมของประเทศไทย มีโอกาสสร้างและใช้ความรู้ตลอดจนผลงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อความเจริญก้าวหน้าของมหาวิทยาลัย ของสังคม และของประเทศชาติในภาพรวม
- มีโอกาสในการพัฒนาความเข้มแข็งของระบบการบริหารจัดการมหาวิทยาลัยด้านการทำงานเพื่อสังคม ทั้งในระดับชาติและระดับนานาชาติ เพิ่มคุณค่าแก่มหาวิทยาลัยและสังคม
- มหาวิทยาลัยที่มีความโดดเด่นด้านการทำงานเพื่อสังคม และสร้างผลกระทบที่ดีต่อสังคม มีโอกาสสูงในการได้รับงบประมาณสนับสนุนจากภาครัฐทั้งในระดับจังหวัดและระดับประเทศรวมทั้งการพัฒนาความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ อย่างต่อเนื่อง
- บุคคลากรของมหาวิทยาลัยมีโอกาสก้าวหน้าในการเข้าสู่ตำแหน่งทางวิชาการด้านมหาวิทยาลัยรับใช้สังคม และได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้งในระดับชาติและระดับนานาชาติ
- สมาชิก EnT สามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึก ทั้งในระดับนโยบาย การให้ทุน และกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
จุดประกาย EnT
ความเป็นมาของพันธกิจสัมพันธ์มหาวิทยาลัยกับสังคม (Engagement Thailand : EnT)
“แนวคิดในการก่อตั้ง พันธกิจสัมพันธ์มหาวิทยาลัยกับสังคม (Engagement Thailand: EnT) เกิดขึ้นหลังจากการที่ สถาบันคลังสมองของชาติ ได้จัดกิจกรรมพาผู้แทนจาก 10 มหาวิทยาลัย/หน่วยงาน รวม 13 ท่าน (เช่น ศ.ดร. วิจิตร ศรีสอ้าน ศ.ดร. ปิยะวัติ บุญ-หลง ศ.นพ.ดร. นรินทร์ หิรัญสุทธิกุล รศ.นพ. อำนาจ อยู่สุข และ ดร. สีลาภรณ์ บัวสาย) ไปเข้าร่วมประชุม 2013 Engagement Australia และศึกษาดูงานมหาวิทยาลัยต่างๆ ในประเทศออสเตรเลีย เมื่อกรกฎาคม 2556”
![Engagement Australia](https://www.engagementthailand.org/wp-content/uploads/2023/09/EnT-Aus-2.png)
ซึ่งนอกจากจะทำให้ผู้บริหารที่ร่วมเดินทางได้รับทราบความรู้ แนวคิด หลักการ วิธีปฏิบัติที่ดี ตลอดจนประสบการณ์จากการศึกษาดูงานและการเข้าร่วมประชุม 2013 Engagement Australia แล้ว ผู้ร่วมเดินทาง (รศ.นพ. อำนาจ อยู่สุข) ยังเกิดแรงบันดาลใจและเสนอให้มีการจัดตั้งเครือข่ายในลักษณะเดียวกับ Engagement Australia ขึ้นในประเทศไทย
วันเปิดตัว EnT
![Start EnT](https://www.engagementthailand.org/wp-content/uploads/2023/09/dsc_0245-768x502.jpg)
วันศุกร์ที่ 16 พฤษภาคม 2557 เวลา 13.30 – 16.30 น.
ณ ห้องแซพไฟร์ 111 อิมแพ็คฟอรั่ม 1 ณนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ
- ทำไมต้องมี “Engagement Thailand (EnT)” ?
- ประสบการณ์จาก Engagement Australia
- บทความวิชาการและการพัฒนาความรู้ Engagement Australia
- การประชุมเครือข่าย Engagement Thailand ครั้งที่ 1